แชนเดอเลียร์ (Chandelier) หรือที่รู้จักกันในชื่อภาษาไทยคือ “โคมระย้า” โดยในอดีตเป็นสิ่งที่ประดิษฐ์ขึ้นจากไม้ และเทียนที่นำมาประกอบกันเพื่อให้เกิดแสงสว่าง เนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่มีไฟฟ้า ซึ่งจะนิยมใช้ในโบสถ์ และในคฤหาสถ์ของเศรษฐีในฝั่งยุโรป

 

หลังจากนั้นได้มีการพัฒนาดีไซน์ของแชนเดอเลียร์มาเรื่อยๆ โดยเริ่มมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบจากไม้ธรรมดามาเป็นโลหะเพื่อความคงทนต่อการใช้งาน ขนาดของแชนเดอเลียร์ รวมไปถึงลวดลายเพื่อให้เข้ากับบ้านสมัยใหม่ และสามารถใช้ร่วมกับหลอดไฟได้

 

นอกจากจะใช้โลหะร่วมกับเทียนแล้ว ยังได้มีการพัฒนามาเป็นการใช้กระจก แผ่นทองแดง และคริสตัลมาตกแต่งแชนเดอเลียร์ เพื่อสร้างความสวยงาม ระยิบระยับมากยิ่งขึ้น

 

ไปรู้จักกับ แชนเดอเลียร์ (Chandelier) แต่ละประเภทกันค่ะ

 

               - Bowl Chandelier : โคมของแชนเดอเลียร์ประเภทนี้จะมีลักษณะคล้ายถ้วยวางหงายขึ้น มีทั้งแบบใช้หลอดไฟหลายหลอด และหลอดไฟหลอดเดียว

 

 

               - Cage Chandelier : โคมของแชนเดอเลียร์ที่มีลักษณะเหมือนกรง มีหลากหลายรูปทรง ทั้งทรงเรขาคณิต ทรงโค้ง หรือมีการดัดเป็นรูปร่างอื่น ๆ ที่มีความอ่อนช้อย สวยงาม

 

 

               - Candle Chandelier : แชนเดอเลียร์เลียนแบบสไตล์ดั้งเดิม เพียงแต่มีการปรับดีไซน์เชิงเทียนให้เหมาะกับการใช้หลอดไฟแทนเทียนไข

 

 

               - Crystal Chandelier : แชนเดอเลียร์ที่ทำจากคริสตัล เป็นรูปแบบที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา อลังการ ปัจจุบันมีหลากสี หลายสไตล์ และมีการใช้วัสดุอื่นผสมกันไปด้วย

 

          

                - Drum Chandelier : แชนเดอเลียร์ที่มีโคมครอบทรงกระบอก ทำจากผ้า โลหะ หรือวัสดุอื่น ๆ ส่วนด้านในก็มีทั้งแบบใช้หลอดไฟหลายหลอดและหลอดไฟหลอดเดียว

 

 

               - Empire Chandelier : แชนเดอเลียร์สไตล์ฝรั่งเศสคลาสสิก (Classic French Style) ประดับด้วยสายคริสตัลมากมาย เหมาะสำหรับตกแต่งห้องเพื่อเพิ่มความหรูหรา

 

 

               - Flush Mount Chandelier : แชนเดอเลียร์แบบไม่มีก้านแขวน ติดตั้งกับเพดานโดยตรง เหมาะกับการตกแต่งในห้องที่มีเพดานต่ำ

 

 

               - Lantern Chandelier : แชนเดอเลียร์ดีไซน์แบบโคมไฟ ตกแต่งรอบโครงเหล็กด้วยกระจก

 

 

               - Linear Chandelier : แชนเดอเลียร์ที่มาในรูปแบบโครงเหล็ก ล้อมหลอดไฟด้วยกรอบทรงสี่เหลี่ยมมุมฉากหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า เหมาะสำหรับติดตั้งไว้เหนือโต๊ะกินข้าวหรือบาร์ห้องครัว

 

 

               - Mini Chandelier : แชนเดอเลียร์ขนาดเล็ก เหมาะกับพื้นที่ ที่มีขนาดจำกัด เช่น ห้องทำงาน ห้องนอน หรือมุมกินข้าว

 

 

               - Orb Chandelier : แชนเดอเลียร์ที่มีการซ้อนโครงเหล็กวงกลมไว้หลาย ๆ วงในอันเดียวกัน เหมาะกับการตกแต่งบ้านได้หลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นสไตล์ลอฟท์หรือโมเดิร์น

  

 

               - Sputnik Chandelier : แชนเดอเลียร์ที่ตั้งชื่อตามดาวเทียมดวงแรกของโลก ประกอบด้วยกิ่งหลอดไฟหลายดวง มีความสวยงาม แถมยังดูเป็นเอกลักษณ์

 

 

               - Teardrop Chandelier : แชนเดอเลียร์ที่มีช่วงบนกว้าง ช่วงล่างแคบ ส่วนใหญ่ตกแต่งด้วยแท่งคริสตัล ดีไซน์เรียบหรู

 

 

               - Tiffany Chandelier : แชนเดอเลียร์ที่ตั้งตามชื่อของกระจกสีที่ออกแบบโดย หลุยส์ คอมฟอร์ท ทิฟฟานี (Louis Comfort Tiffany) เจ้าของทิฟฟานี่ สตูดิโอ (Tiffany Studios) ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ช่วงต้น ค.ศ. 1900 ปัจจุบันมีการดัดแปลงด้วยการเปลี่ยนไปใช้กระจกประเภทอื่น ๆ บ้าง เช่น กระจกสเตนกลาส เป็นต้น

 

 

สำหรับคนที่ชื่นชอบสไตล์การแต่งบ้านแบบ Luxury หนึ่งในของตกแต่งบ้านที่สำคัญ และต้องมีคือ “โคมไฟระย้า หรือแชนเดอเลียร์ (Chandelier)”  และหลายๆคนอาจจะคิดว่าแชนเดอเลียร์นั้นจะต้องมีราคาสูง แต่จริงๆ แล้วแชนเดอเลียร์ไม่ได้มีราคาสูงอย่างที่คิด โดยราคาจะขึ้นอยู่กับดีไซน์ และขนาด เริ่มต้นเพียงหลักพันเท่านั้น

 

ในปัจจุบันมีแชนเดอเลียร์หลากสไตล์ให้เลือกมากมาย สามารถเข้ามาดูสินค้าได้ที่ https://www.lightingcenterth.com

หรือหากต้องการเข้าชมสินค้าจริง สามารถเข้ามาได้เลยที่ บุญถาวร ไลท์ติ้ง เซ็นเตอร์ ทุกสาขา

 

ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก home.kapook.com